ทำความรู้จักกับ “รัสเซีย” ก่อนไปเที่ยว

ทำความรู้จักกับ “รัสเซีย” ก่อนไปเที่ยว

ประเทศรัสเซีย

          ประเทศรัสเชีย หรือเรียกเป็นภาษาทางการว่า สหพันธรัฐรัสเชียซึ่งมีประชากรประมาณ 143 ล้านคนประเทศรัซเชียมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 10 ล้านตารางกิโลเมตร และยังเป็นประเทศที่มีผู้อาศัยมากหนึ่งในแปดของโลก และยังเป็นแหล่งที่รวมอารยธรรมมากมายและยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าชมน่าหลงใหลในสถาปัตยกรรมในรูปแบบต่างๆที่คุณต้องลองเข้าไปสัมผัสบอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับการเดินทางที่เข้ามาในประเทศนี้เป็นอย่างมากประเทศรัสเซียยังมีความอุดมสมบรูณ์ไปด้วยธรรมชาติที่ขาวสะอาดผสมผสานไปด้วยสัตว์นานาพันธุที่ท่านไม่เคยพอเจอมาก่อนซึ่งเมือใดที่ได้มาเยือนประเทศรัสเซียแล้วท่านจะได้พบการตอนรับอย่างอบอุ่นชนเผาพื้นเมืองที่ค่อยให้ความอำนวยความสะดวกสบายยังกับเราเป็นครอบครัวของเขาเลยและยังมีอาหารสุดพิเศษมากมายให้ท่านได้ลองชิมและยังจะได้เรียนรู้กับวัฒนธรรมต่างๆของประเทศรัสเซีย

          วันนี้แอดมินขออนุญาตพาเพื่อนๆมาเจาะลึกประเทศรัสเชียกันคร่าวๆ ว่าประเทศรัสเซียมีอะไรดี ถึงนักท่องเที่ยวได้แห่กันไปเที่ยวกันมากมายในทุกๆปี ถ้าพร้อมกันแล้วมาเริ่มเจาะลึกไปด้วยกันเลยดีกว่า ..

ประวัติเบื้องต้น

          ประเทศรัสเซีย เป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบสหพันธ์สาธารณรัฐกึ่งประธานาธิบดี ประกอบด้วย 83 เขตการปกครอง ไล่จากตะวันตกเฉียงเหนือถึงตะวันออกเฉียงใต้ รัสเซียมีพรมแดนติดกับนอร์เวย์ ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย และโปแลนด์ (ทั้งสองผ่านมณฑลคาลินินกราด) เบลารุส ยูเครน จอร์เจีย อาเซอร์ไบจาน คาซัคสถาน จีน มองโกเลียและเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังมีพรมแดนทางทะเลติดกับญี่ปุ่นโดยทะเลโอฮอตสก์ และสหรัฐอเมริกาโดยช่องแคบแบริง อาณาเขตของรัสเซียกินเอเชียเหนือทั้งหมดและ 40% ของยุโรป แผ่ข้ามเขตเวลาและมีสิ่งแวดล้อมและธรณีสัณฐานหลากหลาย รัสเซียมีปริมาณทรัพยากรแร่ธาตุและพลังงานสำรองใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติอันดับหนึ่งของโลกเช่นเดียวกับผู้ผลิตน้ำมันอันดับหนึ่งทั่วโลกรัสเซียมีป่าไม้สำรองใหญ่ที่สุดในโลกและทะเลสาบในรัสเซียบรรจุน้ำจืดประมาณหนึ่งในสี่ของโลก

ภูมิศาสตร์

          ดินแดนอันกว้างใหญ่ของสหพันธรัฐรัสเซียครอบคลุมพื้นที่แถบตะวันออกเฉียงเหนือเหนือของทวีปยูเรเชีย จุดที่ห่างไกลกันที่สุดของรัสเซีย ซึ่งได้แก่ชายแดนที่ติดต่อกับโปแลนด์และหมู่เกาะคูริล มีระยะห่างถึง 8,000 กิโลเมตร ทำให้รัสเซียมีถึง 11 เขตเวลารัสเซียมีเขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดในโลกและถูกเรียกว่าเป็น "ปอดของยุโรปเพราะปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดูดซึมนั้นเป็นรองเพียงแค่ป่าดิบชื้นแอมะซอนเท่านั้นรัสเซียมีทางออกสู่มหาสมุทรถึงสามแห่ง ได้แก่มหาสมุทรแอตแลนติก อาร์กติก และแปซิฟิก จึงทำให้รัสเซียเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญต่ออุปทานของสินค้าประมงในโลก พื้นที่ส่วนใหญ่ของรัสเซียเป็นที่ราบกว้างใหญ่ ทางตอนใต้ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสเตปป์ มีป่าไม้มากทางตอนเหนือ และมีพื้นที่แบบทุนดราตามชายฝั่งทางเหนือ เทือกเขาจะอยู่ตามชายแดนทางใต้ เช่นเทือกเขาคอเคซัส ซึ่งมียอดเขาเอลบรุส ที่มีความสูง 5,642 เมตรและเป็นจุดสูงสุดของรัสเซียและยุโรป หรือเทือกเขาอัลไต และทางตะวันออก เช่นเทือกเขาเวอร์โฮยันสค์ หรือภูเขาไฟในแหลมคัมชัตคา เทือกเขาอูรัลทางตะวันตกวางตัวเหนือใต้และเป็นเขตแดนทางธรรมชาติของทวีปเอเชียและทวีปยุโรป     รัสเซียมีชายฝั่งที่ยาวถึง 37,000 กิโลเมตร ตามแนวมหาสมุทรอาร์กติก มหาสมุทรแปซิฟิก ทะเลบอลติก ทะเลอะซอฟ ทะเลดำ และทะเลแคสเปียน[27] นอกจากนั้น รัสเซียยังมีทางออกสู่ทะเลแบเร็นตส์ ทะเลขาว ทะเลคารา ทะเลลัปเตฟ ทะเลไซบีเรียนตะวันออก ทะเลชุคชี ทะเลเบริง ทะเลโอคอตสค์ และทะเลญี่ปุ่น เกาะและหมู่เกาะที่สำคัญได้แก่ หมู่เกาะโนวายาเซมเลีย หมู่เกาะฟรัสซ์โยเซฟแลนด์ หมู่เกาะเซเวอร์นายาเซมเลีย หมู่เกาะนิวไซบีเรีย เกาะแวรงเกล เกาะคูริล และเกาะซาคาลิน เกาะดีโอมีด (ซึ่งเกาะหนึ่งปกครองโดยรัสเซีย ส่วนอีกเกาะปกครองโดยสหรัฐอเมริกา) อยู่ห่างกันเพียง 3 กิโลเมตร และเกาะคุนาชิร์ก็อยู่ห่างจากฮกไกโดเพียงประมาณ 20 กิโลเมตร

แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง

           ประเทศรัสเซีย มีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จะเป็นแนวสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์เสียเสียส่วนใหญ่ ในขณะที่ที่เที่ยวทางธรรมชาติก็มีไฮไลท์ให้ไปเยือนได้ตลอดปี ดังนั้นรัสเซียเที่ยวได้ทุกฤดู แต่ช่วงที่ดีที่สุดของการไปเยือน คือ ช่วงหน้าร้อนกลางปีเพราะอากาศจะไม่หนาวเหน็บ แต่ก็เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะที่สุดและแน่นอนว่าราคาที่พักก็สูงตามไปด้วย และในช่วงที่เป็นอากาศเริ่มเย็นแต่ยังไม่หนาวจัดและนักท่องเที่ยวก็น้อยลงมาก จึงนับเป็นอีกช่วงที่ควรไปเยือน แต่ทั้งนี้หากคุณชอบอากาศหนาวๆและอยากไปสัมผัสหิมะ ไปประลองฝีมือการเล่นสกี สโนว์บอร์ดในรีสอร์ทสกีชั้นนำอีกแห่งของโลก การไปเยือนในช่วงฤดูหนาวก็จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน อีกอย่าง คือ การฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่รัสเซียก็นับว่าเป็นช่วงเด็ดประจำปีที่น่าสนใจไม่น้อย และยังมีแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น  เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, คาซาน, โนฟโกรอด,คาราเลีย,โซซี,เอคาเทอรินเบอร์ก เป็นต้นและยังมีอีกหลานสถานที่ที่เราไม่ได้เอ่ยถึงบอกได้เลยว่ามาประเทศรัสเซียมีแต่ได้กับได้

ธรรมเนียมข้อปฏิบัติ และ ความเชื่อของชาวรัสเซีย

          ประเทศรัสเซีย มีวัฒนะธรรมและความเชื่อที่สืบต่อกันมาเป็นนับพันปีจนถึงปัจจุบันและนักท่องเที่ยวท่านใดที่จะเข้ามาท่องเที่ยว ณ ประเทศรัสเซียนี้ละก็อย่าลืมที่จะอ่านหัวข้อนี้ด้วยนะครับเพราะได้จะได้เรียนรู้และปรับตัวเมื่อเรามารัสเซียรู้เอาไว้ไม่เสียหายนะครับ

- การให้ดอกไม้แก่ผู้ใดต้องเป็นจำนวนเลขคี่ ยกเว้นในพิธีการฝังศพมอบดอกไม้เป็นเลขคู่ แต่จะไม่ให้ความสำคัญกับสีของดอกไม้

- ไม่ควรจับมือและหอมแก้มทักทายที่ธรณีประตูทางเข้าบ้าน มิฉะนั้นอาจทะเลาะกับคนนั้น

- เมื่อออกจากบ้านแล้วลืมสิ่งของสิ่งใดอย่ากลับมาบ้านเอาของอีกเพราะจะถือว่าเป็นโชคไม่ดีหาก จำเป็นต้องกลับมาอีกให้ส่องกระจกเงา ดังนั้นแทบทุกบ้านจะมีกระจกส่องที่หน้าบ้าน

- ถ้าเป็นหนุ่มสาวไม่ควรนั่งอยู่ขอบโต๊ะจะไม่ได้แต่งงานเป็นเวลา 7 ปี

- หากปฏิเสธการดื่มและอวยพรจะถือว่าเป็นมารยาทที่ไม่สุภาพ

- ไม่ควรเป่านกหวีดภายในบ้านมิฉะนั้นท่านจะสูญเสียทรัพย์สินและเงินทอง

- การแตะบ่า 3 ครั้งจะเป็นการป้องกันโชคร้าย

- เมื่อเป็นแขกรับเชิญของชาวรัสเซีย จะต้องนำของที่ระลึกติดตัวเพื่อให้แก่เจ้าบ้าน

ศิลปะแห่งรัสเซีย

          ศิลปะการแสดงสุดเก่าแก่และสวยงามของประเทศรัสเซียนั่นคือ “บัลเล่ต์” ได้มีต้นกำเนิดเป็นการแสดงในราชสำนักอิตาลีตั้งแต่ยุคเรอเนซองซ์ (ศตวรรษที่ 15) แต่ทว่าได้มีการพัฒนาการจนมีหน้าตาเหมือนบัลเลต์ในปัจจุบันที่ฝรั่งเศส และกลายเป็นการแสดงที่แพร่หลายในรัสเซีย ก่อนที่ภายหลังจะมีการเติบโตไปในอีกรูปแบบหนึ่งที่อเมริกา บัลเลต์มีพัฒนาการมากมายต่างไปจากจุดเริ่มในอิตาลี ในยุคของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ของฝรั่งเศส หรือในศตวรรษที่ 17 ซึ่งได้สร้างรูปแบบที่เป็นรากฐานของบัลเลต์คลาสสิกในปัจจุบัน กระทั่งราวปี 1850 ความรุ่งเรืองของบัลเลต์ย้ายวิกไปยังเดนมาร์กและรุ่งโรจน์สุดๆ ที่รัสเซีย จนเรียกได้ว่ากลายเป็นอาณาจักรของนักระบำปลายเท้าไปเลย  เวลาได้ผ่านไปถึงช่วง 2 ศตวรรษ จึงเกิดการปฏิวัติในบัลเลต์ขึ้นที่ฝรั่งเศส อย่างที่เรียกว่าเปลี่ยนรูปแบบไปจากจุดเริ่มต้น อาจเนื่องเพราะพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงสนพระราชหฤทัยเป็นพิเศษในศิลปะการแสดง รวมทั้งต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ขึ้น ในปี 1661 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 โปรดฯ ให้ก่อตั้งสถาบันการระบำ หรืออะคาเดมี รัวยาล เดอ ลา ดองส์ พร้อมๆ กันนั้น ท่าพื้นฐานของบัลเลต์คลาสสิก 5 ท่วงท่าก็ได้รับการบัญญัติขึ้น  อง-บัปติสต์ ลุลยี นักแต่งเพลงชาวอิตาเลียนที่ทำงานรับใช้ราชสำนักฝรั่งเศส มีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาดนตรีสำหรับบัลเลต์ตลอดศตวรรษต่อมา เขาเป็นอีกคนที่ได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ด้วยความที่เขาเป็นนักเต้นเองด้วย ทำให้มีความเข้าใจในท่วงท่า และแต่งเพลงสนับสนุนความเคลื่อนไหวของนักเต้นได้เป็นอย่างดี

อาชีพส่วนใหญ่ของประเทศรัสเซีย

          รัสเชีย เป็นประเทศที่มีพื้นที่ในการทำเกษตรเป็นส่วนใหญ่และชาวรัสเซียส่วนใหญ่ก็มีอาชีพในการทำเกษตรและพืชที่ใช้ในการทำเกษตรส่วนใหญ่ก็มักจะเป็น ข้าวสาลี,ข้าวโอ๊ต,ข้าวบาร์เลย์, ข่างไรย์ ถั่ว,ผลไม้ เช่น องุ่น ส้ม มะกอก มะนาว แอปเปิล เป็นต้น  และ อีกหนึ่งอาชีพที่ชาวรัสเซียภาคภูมิใจคือการทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เพราะ ทำเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ควบคู่ไปกับการเพาะปลูกในลักษณะเกษตรแบบผสม การเลี้ยงสัตว์จะแตกต่างกนไปตามลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ดังนี้

- แบบทุนดรา จะเลี้ยงกวางเรนเดียร์ พบในประเทศฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ นอกจากนี้ยังมีการล่าสัตว์จำพวก แมวน้ำ หมี มิ้งค์ สุนัขจิ้งจอก บีเวอร์ เพื่อเป็นการยังชีพอีกด้วย

- เขตทุ่งหญ้าสเตปป์ มีการเลี้ยงโคเนื้อ แพะ แกะ และม้า แถบบริเวณชายฝั่งทะเล แคสเปียน ในภาคใต้ของยูเครนและรัสเซีย

- เขตเมดิเตอร์เรเนียน มีการเลี้ยงโคเนื้อและแกะ

- เขตอบอุ่นชื้อตอนเหนือของคาบสมุทรบอลข่าน มีการเลี้ยงสุกรโดยใช้ข้าวโพดเป็นอาหาร

- เขตภาคพื้นสมุทรชายฝั่งตะวันตก มีการทำฟาร์มโคนม ประเทศที่เลี้ยงมากที่สุด คือ เดนมาร์ก รองลงมาคือ รัสเซีย

อาหารของรัสเซีย

          หากมองย้อนไปถึงวัฒนธรรม รัสเซียเป็นประเทศที่มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โทดอกซ์ที่เคร่งครัดมาก มากกว่า 200 วันในหนึ่งปี ที่คนรัสเซีย ผู้ที่นับถือนิกายออร์โธดอกซ์ งดกิน เนื้อ นม ไข่ และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมทั้งหลาย และการที่จะทำให้อาหารที่มีแต่ผักมีรสชาติมากยิ่งขึ้น จึงต้องใช้เครื่องเทศ เป็นส่วนประกอบ ทำให้ติดรูปแบบการบริโภคมาจนทุกวันนี้  อาหารรัสเซียได้ชื่อว่าเป็นอาหารที่อุดมสมบูรณ์ด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งวิธีการทำก็แสนง่ายและไม่มีเครื่องปรุงแต่อย่างใด ส่วนประกอบหลักของอาหารรัสเซีย ได้แก่ พวกธัญพืชต่างๆ เช่น ข้าวไรย์ บาร์เล่ย์ ข้าวโอ๊ด ข้าวฟ่าง และข้าวสาลี จึงไม่น่าแปลกใจที่ขนมปังจะเป็นอาหารหลักของคนรัสเซีย ส่วนพายมักทำกันในช่วงเทศกาล หรือวันหยุด ไส้ที่นิยมได้แก่ ปลา เนื้อ และเบอร์รี่  คนรัสเซียชอบกินผักมาก ไม่ว่าจะเป็นกระหล่ำปลี หัวผักกาด แตงกวา โดยนิยมทำเป็นผักสลัด กินกับน้ำสลัดรสเปรี้ยว อย่างไรก็ตามสิ่งที่ชาวรัสเซียนิยมมากอีกชนิดหนึ่ง คือ มันฝรั่งและ เครื่องเทศที่คนรัสเซียนิยมมากที่สุดคือ อบเชย พริกไทย กานพลู และที่ขาดไม่ได้คือหอมหัวใหญ่ คนรัสเซียแบ่งอาหารของตัวเองออกเป็น 2 ประเภท คือ อาหารประจำวัน ที่เน้นความง่าย ใช้เวลาปรุงไม่นาน กับอาหารที่เป็นทางการที่ต้องพิถีพิถันเครื่องปรุงและใช้เวลาในการทำมากขึ้น การได้กินอาหารรัสเซียแท้ๆ จึงเสมือนคุณกำลังได้เรียนรู้วัฒนธรรมของคนรัสเซียไปขณะเดียวกันบอกได้เลยว่าถ้าได้ลองอาหารรัสเซียแล้วจะติดใจ

          เป็นยังไงบ้างละครับเพื่อนๆกับการได้รู้จักประเทศรัฐเชียแล้วอย่าลืมที่จะเก็บกระเป๋าที่จะไปเที่ยวรัสเชียกันนะครับบอกได้เลยว่าคุ้มค่าที่ได้ไปเยือนจริงๆท่านจะได้มีมากกว่าที่คุณคิด ..

          นอกจากนี้ยังมีบทความน่าสนใจอยู่อีกเพียบ! ทัวร์ญี่ปุ่น ทาคายาม่า ทัวร์ญี่ปุ่นพรีเมี่ยม ทัวร์เกาหลี เจจู ทัวร์ฮ่องกง เซิ่นเจิ้น ทัวร์ไต้หวัน จิ่วเฟิ่น ทัวร์จีน อู๋ซี ทัวร์มาเลเซีย ทัวร์เวียดนาม ซาปา ทัวร์กัมพูชา เสียมเรียบ ทัวร์สิงคโปร์ เกาะเซนโตซ่า ทัวร์พม่า สิเรียม ทัวร์ลาว ปากเซ ทัวร์มัลดีฟส์ ทัวร์อินเดีย ทัชมาฮาล ทัวร์เนปาล ปัคตาปูร์ ทัวร์ภูฏาน ปูนาคา ทัวร์ศรีลังกา โคลอมโบ ทัวร์จอร์แดน ทัวร์อินโดนีเซีย บันดุง ทัวร์ฟิลิปปินส์ ตาไกไต ทัวร์ดูไบ ทัวร์บาหลี ทัวร์อียิปต์ กีซ่า ทัวร์บรูไน ทัวร์ยุโรป สโลวาเกีย ทัวร์รัสเซีย ซาร์กอร์ส ทัวร์โครเอเชีย ทัวร์ตุรกี ทัวร์อเมริกา ลาสเวกัส ทัวร์ออสเตรเลีย เพิร์ธ ทัวร์นิวซีแลนด์ ไคร้สท์เชิร์ช และ ทัวร์แอฟริกาใต้ เคปทาวน์ ตั๋วเครื่องบินฮอกไกโด ตั๋วเครื่องบินราคาถูก ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วเครื่องบินการบินไทยราคาถูก Nokair Airasia Thailionair รถเช่า โรงแรม Tokyo Disneyland JR PASS ประกันการเดินทาง Pocket Wifi

ฝากติดตามบทความข่าวสารการท่องเที่ยวดีๆได้จากที่นี่ และอย่าลืม Like&Share เป็นกำลังใจให้แอดมินบ้างนะครับ :)