Last updated: 3 ต.ค. 2559 | 4509 จำนวนผู้เข้าชม |
5 สถานที่เที่ยวสุดฟิน เมื่อไปเยือนเวียดนาม
ประเทศเวียดนาม เป็นประเทศที่มีประชากรเป็นอันดับ 13 ของโลกที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของคาบสมุทรอินโดจีนและยังเป็นอีกประเทศที่นักท่องเที่ยวนิยมแห่กันไปเที่ยวประเทศแห่งนี้ แล้วรู้หรือเปล่า? นอกจากฮานอยแล้วยังมีเมืองที่น่าท่องเที่ยวเมืองต่างๆอีกด้วย
ประเทศเวียดนาม พระราชวังอีกหลายพระราชวังที่ชวนน่าหลงใหลที่โดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงามของประเทศเวียดนาม ถ้าเพื่อนๆพร้อมกันแล้ว แอดมินอยากจะชวนให้มาร่วมทวิปทัวร์เวียดนามไปพร้อมกันเลยดีกว่าครับ พร้อม! เริ่ม ..
1.เมืองดานัง (Danang)
เมืองดานัง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าหลงใหลและยังมีชื่อเสียงในเรื่องเศรษฐกิจ, วัฒนธรรม,วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแล้ว ที่นี่ยังมีประชากรมากที่สุดในบรรดา 5 สถานที่ (ที่แอดมินจะมาจะแนะนำ) ไม่ว่าจะเป็น โฮจิมินห์ซิตี้, ฮานอย , ไฮฝ่อง และ คันโถเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลภาคใต้ของเมืองดานังอีกด้วยนะ เมืองดานังเป็นหนึ่งในสามเมืองหลักของเวียดนามของประเทศเวียดนาม เมืองดานังนี้ยังมีที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำหานและทางทิศตะวันออกของอ่าวดานังที่มีทะเลทรายยาวสุดลูกหูลูกตาและในทางทิศตะวันตกของเมืองดานังที่มีภูเขาสูงและยังเป็นพรมแดนที่มีความเป็นธรรมชาติอย่างมาก จึงได้สมยานามว่า “ศูนย์กลางทางมรดกโลกของเวียดนาม” อีกด้วยครับ
2. เมืองรังโค (Lang Co)
เมืองรังโค ยังเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ไม่ค่อยจะมีนักท่องแวะเที่ยวชมสักเท่าไร เพราะอยู่ห่างจากเมืองดานังและเมืองเว้เป็นร้อยกิโลเมตร แต่เมืองรังโคแห่งนี้เป็นเมืองที่มีชายหาดสวยงามที่เป็นเมืองแหลมยื่นไปในทะเลและยังมีชาวบ้านอาศัยอยู่ที่แหลมนั้น เป็นชายหาดที่สวยงามที่สุดในเมืองรังโค รังโคเป็นเมืองท่องเที่ยวและเป็นทางผ่าน มีภูเขาสูงรอบด้านทำให้เวลาขึ้นไปมองจากด้านบนของภูเขาจะมองเห็นทะเลที่มีมิติน่าชม ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้อีกที่เลยนะครับ
3.เมืองเว้ (Hue)
เมืองเว้ เป็นชื่อของเมืองหลวงของจังหวังถัวเทียน-เว้ ซึ่งเป็นชื่อเมืองที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เมืองเว้ มีภูมิศาสตร์ที่น่าหลงใหล เมืองเว้ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศเวียดนามริมฝั่งแม่น้ำหอมถัดเข้ามาในแผ่นดินจากริมฝั่งทะเลจีนใต้เพียง 2-3 ไมล์ห่างจากกรุงฮานอยไปทางใต้ประมาณ 540 กิโลเมตร และห่างจากนครโฮจิมินห์ไปทางเหนือประมาณ 644 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง ซึ่งเต็มไปด้วยหินภูเขาไฟ,หาดทราย,เนินทรายและทะเลสาบที่มีความสวยงามอันน่าทึ่งเย้ายวนน่าไปเยือนมากๆเลย นอกจากนี้ยังเป็นเขตพื้นที่ป่าไม้สำคัญที่สุดของเวียดนาม ส่วนสภาพภูมิอากาศในเมืองเว้ ค่อนข้างร้อนตลอดทั้งปีโดยรวมมีเพียง 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน ช่วงปลายเดือนตุลาคม – เมษายน ส่วนฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม อุณหภูมิสูงสุดวัดในหน้าร้อนเกือบ 40 องศาเซลเซียส และต่ำสุด 20 องศาเซลเซียส บอกก่อนเลยว่าแค่นี้ก็หนาวจนฟินสุดๆแล้วละครับ
4.พระราชวังไดนอย (Dai Noi)
เป็นเขตโบราณสถานราชธานีที่นักท่องเที่ยวทั่วไปนิยมไปเที่ยว และมีความชื่นชอบในมรดกและวัฒนธรรม ทางประวัติศาสตร์ของเวียดนามอยู่แล้วยิ่งได้รับความสนใจมากเป็นอันดับหนึ่งกันเลยทีเดียว ซึ่งสมัยในของกษัตริย์ราชวงศ์เหงวียนที่พระเจ้ายาลองทรงให้ก่อสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1805 และพระเจ้ามิงห์หม่างทรงต่อยอดก่อสร้างแล้วเสร็จในปีค.ศ.1832 โดยใช้เวลาตั้ง 27 ปีเลยนะ ซึ่งเป็นนครที่มีกำแพงพระราชวัง ตำหนักและวัดวาอารามมากถึง 140 แห่ง และมีระยะเวลา 200 ปี นครจักรพรรดิแห่งเว้นี้ยังอยู่ในสภาพดีและยังมีการบอกถึงต้นกำเนิดและวิถีชีวิตของชาวเวียดนามจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนครจักรพรรดิแห่งเว้เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามหรูหราและยังเป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม ที่เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมพื้นเมืองของเวียดนาม
5.สุสานจักรพรรดิ ไคดิงห์ (Tomb of Khai Dinh)
สุสานของพระเจ้าไคดิงห์ เป็นเพียงสุสานแห่งเดียวที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออกเข้ากับสถาปัตยกรรมตะวันตกด้วยรูปทรงเป็นจักรพรรดิในราชวงศ์เหวียนพระองค์เดียวที่ได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศสเพื่อสุสานแห่งนี้ที่สุสารนี้สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี ใช้เวลาสร้างถึง 11 ปีเลยนะครับ พระเจ้าไคดิงห์เป็นทรงพระบิดาบุญธรรมของพระเจ้าเบ๋าได่ ทรงครองราชย์อยู่ 9 ปี ในยุคที่ฝรั่งเศสเข้ามาปกครอง ซึ่งทางเดินขึ้นสุสานได้รับการตกแต่งเป็นบันไดมังกรที่มีความใหญ่และงดงามอันโอ่อ่าที่ไปสู่สานชั้นหนึ่ง และมีบันไดต่อไปยังลานชั้นสองด้วยรูปปั้นหินของช้าง ม้า และข้าราชการทหารพลเรือนที่เรียงรายสวยงามเป็นแถว กลางลานจะมีแผ่นจารึกเขียนด้วยอักษรจีนนิพนธ์โดยพระเจ้าเบ๋าได่ เพื่อรำลึกถึงพระบิดาของพระองค์ ส่วนด้านบนสุดเป็นพระราชวังเทียนดิงห์ภายในพระราชวังมีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยการใช้กระเบื้องสีปูพื้นจิตรกรรมฝาผนังภาพมังกรในม่านเมฆขนาดใหญ่ที่วาดโดยใช้ศิลปินที่เขียนภาพด้วยเท้า ประดับอยู่บนเพดานกลางห้องโถง ส่วนทางซ้ายและขวาเป็นภาพเฟรสโกอันเต็มไปด้วยสีสันที่ตกแต่งด้วยการฝังกระจกสีและกระเบื้องนับพันชิ้นแสดงถึงเรื่องราวมากมายของสัตว์ ต้นไม้ และดอกไม้ ตลอดจนรูปปั้นสำริดขนาดเท่าองค์จริงของพระเจ้าไคดิงห์ ซึ่งสร้างที่ฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2465 ตั้งอยู่บนยกพื้นด้านบนของสุสาน
นอกจาก 5 สถานที่เที่ยวในเวียดนามที่แอดมินแนะนำไปแล้ว ยังมีอีกหลายเมือง และหลากหลายสถานที่เที่ยวเลย อย่างไรก็ดีฝากติดตามต่อด้วยนะครับ แล้วอย่าลืมกด Like กด Share ด้วยนะครับ
20 ส.ค. 2558
19 เม.ย 2559
16 ส.ค. 2558
12 ส.ค. 2558