ใครๆก็ไปสวิตเซอร์แลนด์ | เตรียมตัวเที่ยวสวิส EP.3

Last updated: 22 ก.ย. 2558 | 3757 จำนวนผู้เข้าชม |

รู้จักสวิตเซอร์แลนด์ EP.3 จะพาคุณมาเก็บข้อมูลเตรียมตัวกันก่อนไปเที่ยวสวิส ตาม Premiumworldtour มาดูกันค่ะ ..

  'ฤดูกาลท่องเที่ยวที่คึกคักของสวิตเซอร์แลนด์จะเริ่มจากฤดูใบไม้ผลิราวเดือนเมษายนเรื่อยไปจนถึงปลายฤดูใบไม้ร่วงราวเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอากาศกำลังเย็นสบายไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป..'

  โดยในช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนมิถุนายน - สิงหาคม น่าจะเป็นช่วงเวลาเหมาะที่สุดในการไปเที่ยวชมเมือง ชนบท ล่องทะเลสาบหรือแม้แต่การขึ้นชมยอดเขา เนื่องจากช่วงนี้อากาศมักจะแจ่มใส ธรรมชาติชุ่มชื้นด้วยมวลหมู่แมกไม้ รถประจำทาง กระเช้าขึ้นเขา เรือล่องทะเลสาบ หรือบริการขนส่งสาธารณะต่างก็พร้อมใจกันเปิดให้บริการ

          ระยะเวลาในช่วงกลางวันก็แสนยาวนาน กว่าจะมืดค่ำก็ปาไปแล้ว 4 ทุ่ม ทำให้ในแต่ละวันสามารถวางแผนเที่ยวได้หลายที่ ในช่วงเวลาเย็นแม้สถานที่ท่องเที่ยวจะพากันปิดบริการแล้ว เราก็ยังสามารถนั่งรถไฟชมวิวไปตามเส้นทางต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

          สำหรับการเตรียมเครื่องแต่งกายไปเที่ยวในช่วงหน้าร้อนนั้น แม้อากาศจะเย็นสบายแต่ก็ควรจะนำแจ็คเก็ตบางๆติดตัวไปด้วย เพราะบางครั้งในตอนเช้าหรือหัวค่ำอากาศก็อาจหนาวได้โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขาสูง รวมทั้วร่มก็ควรติดไปด้วยถ้าหากดูพยากรณ์อากาศแล้วเห็นว่าวันนั้นฝนมีโอกาสตก แต่ถ้าหากวันไหนจะขึ้นยอดเขา ก็ให้เตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย อย่าลืมว่าแม้จะเป็นหน้าร้อนหิมะบนยอดเขาก็ยังไม่ละลายเลย ส่วนฤดูหนาวนั้นเสื้อกันหนาวตัวหนาๆขนไปได้เลย นอกจากนั้นอาจเตรียมแว่นกับครีมกันแดดไปด้วย เพราะกิจกรรมกลางแจ้งทั้งล่องเรือในทะเลสาบหรือยอดเขานั้นแสงแดดจ้ามาก หรือแม้แต่การเดินเที่ยวในเมืองต่างๆ ก็หนีไม่พ้นแดดแน่นอน

เขตเวลาของสวิตเซอร์แลนด์แดนนาฬิกา

  สวิตเซอร์แลนด์ใช้เขตเวลาเดียวกับประเทศอื่นๆ ในยุโรปกลาง เช่นเดียวกับอิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรีย (เร็วกว่าเวลามาตรฐานกรีนิช 1 ชั่วโมง)

          ถ้าเปรียบเทียบกับเวลาในประเทศไทยก็จะช้ากว่า 5 ชั่วโมงในช่วงหน้าร้อน (28 มี.ค.-10 ต.ค.) แต่ในช่วงหน้าหนาว (11 ต.ค.-24 มี.ค.) จะช้ากว่าเวลาในปะเทศไทย 6 ชั่วโมง เนื่องจากมีการใช้ระบบ Day Light Saving Time เหมือนประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปเพื่อชดเชยช่วงเวลากลางวันที่ยาวนานขึ้น

          ดังนั้นถ้าไปเที่ยวสวิสในช่วงรอยต่อการเปลี่ยนเวลาดังกล่าวก็อย่าลืมปรับนาฬิกาให้ตรงด้วย โดยดูเปรียบเทียบกับนาฬืกาที่พบเห็นได้ทั่วไปในที่สาธารณะไม่ว่าจะเป็นหอนาฬิกา สถานีรถไฟ นาฬิการิมฟุตบาธ หรือตามร้านค้าร้านขายนาฬิกาที่มีเยอะแยะ โดยแทบไม่ต้องดูนาฬิกาบนข้อมือตัวเอง สมกับประเทศเขาเป็นเมืองแห่งนาฬิกา เป็นประเทศที่ขายนาฬิกาทั้งบ้านทั้งเมืองเลยแหละ