ตะลุยเที่ยวอิตาลี EP.2

Last updated: 5 ธ.ค. 2558  |  2274 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ตะลุยเที่ยวอิตาลี EP.2



ตะลุยเที่ยวอิตาลี EP.2
       สุขสันต์วันพ่อค่ะ ใครพาคุณพ่อไปเที่ยวบ้างคะ ถ้าใครไม่ได้ไปไหน วันนี้ Premiumworldtour จะพาไปลุยอิตาลีค่ะ ต่อจากภาคแรก ตะลุยเที่ยวอิตาลี ที่เขียนไว้นะคะ มาลุยไปพร้อมกันเลย ..
 
 
พิพิธภัณฑ์หอศิลป์บอร์เกเซ (Museo Borghese)
          พิพิธภัณฑ์หอศิลป์บอร์เกเซ ตั้งอยู่ในสวนของวิลล่าบอร์เกเซทางด้านตะวันออกใกล้กับถนนเวียปินเซียนา (Via Pinciana) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ทว่าอยู่ในอาคารเล็กๆ ที่พระคาร์ดินัล ชีปีโอเน บอร์เกเซ (Scipione Caffarelli Borghese) ผู้หลงไหลความสวยงามศิลปะบารอกตอนต้นใช้เป็นที่พักอาศัย และใช้เป็นสถานที่เก็บสะสมผลงานที่ชื่นชอบด้วย รวมทั้งผลงานศิลปะล้ำค่าที่ได้รับมรดกจากพระสันตะปาปาปอลที่ 5 ผู้เป็นลุงอีกหลายชิ้น
 
โคลอสเซียม (Colosseum)
          โคลอสเซียม หรือ โคลอสซีโอ (Colosseo) เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางมาทุกยุคทุกสมัยและเป็นสัญลักษณ์ของกรุงโรมที่มีคนรู้จักมากที่สุด เป็นโรงละครกลางแจ้งรูปทรงกลมรีซึ่งจักรพรรดิโรมันใช้เป็นสถานที่สร้างความบันเทิงให้กับชาวเมืองบนความทุกข์ยากของมนุษย์และสัตว์ป่า แม้จะมีความยิ่งใหญ่ในด้านสถาปัตยกรรมการก่อสร้าง แต่สิ่งดีๆมีคุณค่าในด้านจิตใจหรือศีลธรรมหาไม่ได้จากที่นี่ (ในสมัยนั้นคงเห็นว่าเป็นสิ่งดีก็เป็นได้) เพราะโคลอสเซียมคือเวทีสังหารดีๆนี่เอง
 
ประตูชัยคอนสแตนดิน (Arch Of Constantine)
          สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินเหนือจักรพรรดิมักเซนติอุสในการรบที่สะพานมิลเวียน เมื่อครั้งยาตราทัพเข้ายึดบัลลังก์กรุงโรมในปี ค.ศ.321 โดยทรงนิมิตรเห็นไม้กางเขนเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ จากนั้นพระองค์ก็ขึ้นครองราชย์ แล้วประกาศให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำอาณาจักรโรมัน ให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการนับถือ แม้บางส่วนจะนับถือเทพเจ้าตามความเชื่อเดิมอยู่ นับเป็นจักรพรรดิพระองค์แรกที่นับถือศาสนาคริสต์ ผู้ประทับตราศาสนาคริสต์ไว้อยู่เป็นคู่อาณาจักรและโลกตะวันตกได้อย่างมั่นคง
 
พีระมิดไกอุส เชสตีอุส (Pyramid of Caius Cestius)
          จาก พีระมิดไกอุส เชสตีอุส ที่เห็นโดเด่นอยู่กลางถนน เป็นพีระมิดสมัย 1,200 ปีก่อนคริสตกาล สูง 36 เมตร รูปทรงดูแตกต่างจากพีระมิดอียิปต์ กล่าวคือฐานดูจะแคบกว่าจึงทำให้รูปทรงดูสูงชัน ใกล้ๆกันมี ประตูซานเปาโล (Porto San Paolo) ประตูเมืองด้านหน้าทิศใต้ ติดกันมีโบสถืซานเปาโล ฟูริโอ เล มูรา (Basilica Of San Paolo Fuori Le Mura) โบสถ์ใหญ่อีกแห่งที่สวยงามน่าชม ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่ตั้งหลุมศพของเซ็นต์ปอล
 
ปิอัซซ่า นาโวนา (Piazza Navona)
          ปิอัซซ่านาโวยา (Piazza Navona) เป็นจัตุรัสรูปวงรียาวคล้าย Circus Maximus แต่เล็กกว่า ตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่อาคารสวยงามตามสถาปัตยกรรมสมัยเรอเรสซองซ์และบารอก ซึ่งพระสันตะปาปาอินโนเซนติอุสที่ 10 รับสั่งให้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เพื่อเสริมทัศนียภาพของสนามกีฬาเก่าสมัยจักรพรรดิโดมิเซียน จึงเป็นจัตุรัสที่สวยงามมีชีวิตชีวาที่สุดในกรุงโรม ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวนิยมไปเดินเล่นแวะชมแผงขายศิลปะงานศิลป์และนั่งจิงกาแฟตามคาเฟ่ที่ตั้งอยู่รายรอบ
 
วิหารแพนธีออน (Pantheon)
          วิหารแพนธีออน หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของสถาปัตยกรรมการก่อสร้างแห่งอาณาจักรโรมันโบราณ ยังคงยืนหยัดอยู่คู่กรุงโรมมานานกว่า 2 พันปี สร้างขึ้นครั้งแรกมื่อ 27 ปีก่อนคริสตกาลโดย มาร์คัส อากริปปา บุตรเขยของจักรดิออกัสตัส ต่อมาจากจักรพรรดิเฮเดรียน ได้สร้างหอกลมและหน้าจั่วอย่างที่เห็นในปัจจุบันขึ้นแทนในช่องปี ค.ศ.118-125 แต่ยังคงให้เกียรติผู้สร้างโดยจารึกอักษรภาษาละตินไว้บนหน้าจั่วว่า "อากริปปาเป็นคนสร้าง" แรกเริ่มเดิมทีนั้นสร้างขึ้นด้วยวัตตุประสงค์ให้เป็นที่สิงสถิตย์ของเหล่าเทพเจ้าโรมัน
 

โรงละครมาร์เซลโล (Theatre of Marcellus)
          โรงละครมาร์เซลโล หรือ เตอาโตร ดิ มาร์เชลโล (Teatro di Marcello) โรงละครรูปครึ่งวงกลมหันหน้าออกสู่แม่น้ำไทเบอร์ มีอายุเก่าแก่กว่าโคลอสเซียมเสียอีก เปิดใช้ในสมัยจักรพรรดิออกัสตัส โครงสร้างใหญ่โตคล้ายกับโคลอสเซียมจุผู้ชมได้ประมาณ 20,000 คน ปัจจุบันเหลือโครงสร้างเพียงบางส่วนเท่านั้นและไม่เปิดให้สาธารฯชนเข้าชม แต่ก็พอมองเห็นโครงสร้างภายนอกได้อย่างชัดเจน และยังคงเห็นเสาโรมัน 3 ต้นทางด้านขวาของโรงละคร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิหารเทพอะพอลโลอายุกว่า 100 ปีก่อนคริสตกาลซึ่งพังทลายลงเกือบหมดแล้ว
 

จัตุรัสเซ็นต์ปีเตอร์ (Saint Peter's Square)
          จัตุรัสเซ็นต์ปีเตอร์ หรือ ปิอัซซ่าซานปีเอโตร (Piazza Pietro) สร้างขึ้นเมื่อปี 1656-1667 เป็นลานกว้างหน้ามหาวิทยาลัยเซ็นต์ปีเตอร์ ผลงานการออกแบบของแบร์นีนีซึ่งจัดวางเสาตรงทางเดินทั้งสองข้างให้เป็นรูปครึ่งวงรี เปรียบเสมือนแขนที่กางออกเพื่อเชื้อเชิญผู้คนให้เข้าสู่ศรัทธา แต่ละแถวประกอบด้วยเสาคอมลัมน์ขนาดใหญ่รองรับหลังคาสูง 196 ฟุต 4 เสาเรียงห่างกันไปในระยะที่เท่าๆกัน สิ่งที่น่าทึ่งคือเมื่อลงไปยืนอยู่จุดกึ่งกลางระหว่างเสาโอเบลิสก์กับน้ำพุของแต่ละด้าน จะมองเห็นเฉพาะเสาแถวหน้าแถวเดียวเท่านั้น
 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้